บาคาร่าออนไลน์

เกมส์บาคาร่า เป็นเกมส์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ขนานนามมาอย่างยาวนาน ว่าเป็นเกมส์ที่สามารถทำให้เหล่าบรรดานักพนันต่างลุ่มหลงและโหยหามันได้ตลอดเวลา โดยเราจะอธิบายวิธีการและเคล็ดลับของบาคาร่าแบบแบไต๋การเล่นบาคาร่า เล่นยังไงให้ชนะ!! สำหรับคาสิโนเกมส์บาคาร่าคือเกมส์ที่ถูกจัดและแยกประเภทออก อย่างชัดเจน แม้แต่การแต่งกายของผู้เล่นก็มีส่วน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม เพราะถือว่า การแต่งกายที่ดูดี จะบ่งบอกถึงฐานะของผู้เล่นได้ และด้วยวิวัฒนาการที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เกมส์บาคาร่าได้ถูกพัฒนามาให้อยู่ในรูปแบบเกมส์ออนไลน์อย่างเช่นปัจจุบันนี้ โดยเกมส์บาคาร่าก็ยังสามารถทำให้รู้สึกน่าทึ่งได้อีกเช่นเดิม เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเกมส์ความน่าตื่นเต้นของเกมส์ที่จำลองรูปแบบคาสิโนเสมือนกับคาสิโนจริง ๆ ตาม คาสิโนสถานที่ต่าง ๆ ในต่างประเทศที่มีการเปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมายทั่วไป และแม้แต่การวางงบประมาณการเล่นที่มีมากมายหลากหลายราคา ซึ่งเป็นราคาที่สามารถเข้าถึงได้ บางเว็บไซต์ จะแยกประเภทเกมส์บาคาร่า จากรูปแบบของซอฟต์แวร์ผู้ให้บริการหรือนักประดิษฐ์เกมส์ โดยมีข้อดีต่างกันตรงที่ว่าจำนวนเงินที่ใช้ในการวางเดิมพันขั้นต่ำของเกมส์ จะมีตัวเลือกให้หลายราคานั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทำให้เกมส์บาคาร่ายังคงเป็นหนึ่งในเกมส์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงต่อเนื่องเรื่อยมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

กติกาของการเล่นบาคาร่า
วิธีการเอาชนะเกมส์ไพ่บาคาร่า เกมส์ไพ่บาคาร่ามีเป้าหมายของเกมส์บาคาร่าก็คือ การเล่นอย่างไรก็ได้ โดยให้มีแต้มเท่ากับ 9 แต้ม หรือใกล้เคียงกับ 9 ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะ 9 แต้มจะเป็นไพ่ที่สูงที่สุด “ดีลเลอร์” หรือเรียกอีกอย่างว่า เจ้ามือ จะเป็นคนที่เก็บเงินและจ่ายเงินของโต๊ะ และจะทำหน้าที่ แจกไพ่ด้วยเช่นกัน โดยดีลเลอร์นี้จะทำการแจกไพ่จำนวนสองใบสำหรับ Player และ Banker โดยไพ่จะถูกแจกให้กับทาง Player ก่อน และค่อยทำการสลับมาแจกให้ Dealer ภายหลัง และการแจกไพ่นั้น จแจกโดยการการคว่ำหน้าไพ่ลงทั้งหมด และบางสถานการณ์สามารถเรียกร้องให้ดีลเลอร์แจกไพ่ใบที่สามได้ โดยกรณีนี้จะไม่คำนึงถึงจำนวนผู้เล่นที่กำลังเล่นในเกมส์ตาหนึ่ง ๆ และอย่างที่กล่าวไปแล้วนั้นว่าโต๊ะสามารถรองรับผู้เล่นที่ทำการเดิมพันได้สูงสุด จำนวน 14 คน ผู้เล่น เลือกทำการเดิมพันระหว่าง Player / Banker or Tie โดยทั้งนี้ แต้มที่ทำการเดิมพันจะต้องเท่ากับ 9 แต้ม หรือ ใกล้เคียงกับ 9 ให้มากที่สุด ผู้เล่นต้องทำการตัดสินใจว่าชอบฝั่งใด และทำการเดิมพันตามที่ต้องการ ไพ่ที่ มีแต้มเท่ากับ 8,9 จะเรียกว่า Natural โดยหากมี 8 แต้มจะเรียกว่า ‘Le Petit’ และหากมี 9 แต้ม จะเรียกว่า ‘Le Grande’ โดยคำที่ใช้เรียกเหล่านี้ จะใช้ต่อเมื่อไพ่ที่ถูกแจกสองใบแรกมีแต้มเป็น 8 หรือ 9 เท่านั้น นับว่า “ชนะ” และเกมส์จะจบลงทันที หากไพ่ทั้งสองฝ่าย เกิดมีค่าหรือจำนวนเท่ากับ จะมีผลเป็น “เสมอ” นับว่า จบเกมส์ เช่นกัน

แต้มของไพ่ในเกมส์บาคาร่า
การเล่นเกมส์ไพ่บาคาร่า หลักพื้นฐานที่สำคัญที่ผู้เล่นควรจะต้องทราบก็คือ แต้มหรือมูลค่าหน้าไพ่แต่ละใบ ว่าไพ่เหล่านั้นมีจำนวนกี่แต้ม โดยแต้มที่ถูกกำหนดและที่นำใช้ในเกมส์บาคาร่า จะมีการกำหนดค่าไพ่ตามปกติทั่วไป ดังนี้

ไพ่ 10,J,Q,K จะมีค่าเท่ากับ 0

ไพ่ที่มีตัวเลข ตั้งแต่ 2-9 จะมีค่าเท่ากับ มูลค่าตัวเลขหน้าไพ่

ไพ่เอซ (A) จะมีค่าเท่ากับ 1

อธิบายหลักการเล่นบาคาร่า

จะมีการกำหนดแต้ม หรือ ค่าของไพ่ไว้ว่า หากแต้มดังต่อไปนี้ มีแต้มต่ำกว่า หรือ มากกว่า จำนวนเท่านี้ ทางดีลเลอร์ จะทำการแจกไพ่ใบที่สาม ผู้เล่นไม่ต้องเป็นกังวลไปว่า จะสับสน เราจะทำการอธิบายทั้งหมดในส่วนตรงนี้ โดยทางดีลเลอร์ จะทำการจัดการเองทั้งหมดเพื่อผู้เล่น จะเป็นการดี หากผู้เล่น เข้าใจในหลักการตรงนี้ ว่าบางครั้ง ทำไม ผู้เล่นอาจจะได้รับการแจกไพ่ใบที่สาม โดยหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีแต้มไพ่ดังนี้
0-5 แต้ม ผู้เล่นจะได้รับการแจกไพ่อีกหนึ่งใบ
6-7 แต้ม ผู้เล่น ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น รอลุ้นเพียงอย่างเดียว ไพ่แต้มนี้ เรียกว่า “อยู่”
8-9 แต้ม (เนเชอรัล) ไพ่นี้ เป็นไพ่ที่ชนะ โดยปริยาย เนื่องจากแต้มบาคาร่า สูงสุด คือ 9 แต้มหากแต่สองฝ่าย เกิดมีแต้มเท่ากับ เกมส์นั้น จะนับว่า “เสมอ”
หลังจากที่ฝ่าย Player ได้รับการแจกไพ่ และแต้มออกมาเป็นจำนวนดังกล่าวแล้วนั้น ทางฝ่ายดีเลอร์ หรือ Banker จะมีวิธีการปฏิบัติดังนี้
Banker มีแต้ม 1-2 แต้ม จะทำการแจกไพ่ใบที่สามทันที
Banker มีแต้ม 3 แต้ม จะทำการจั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้ม 1-7 แต้ม หรือ 9-10 และจะ ไม่เรียกไพ่ใดใด หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 8
Banker มีแต้ม 4 แต้ม จะทำการจั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 2-7 แต้ม แต่จะไม่จั่วไพ่ หากผู้เล่นมีแต้มเท่ากับ 1 หรือ ระหว่าง 8-10 แต้ม
Banker มีแต้ม 5 แต้ม จะทำการจั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 4-7 แต้ม แต่จะไม่จั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 1-3 หรือ 8-10
Banker มีแต้ม 6 แต้ม จะทำการจั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 6-7 แต้ม แต่จะไม่จั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 1-5 หรือ 8-10
Banker มีแต้ม 7 แต้ม จะไม่ทำการจั่วไพ่ จะเรียกว่า “อยู่” ไม่ว่าแต้มผู้เล่นจะเป็นอย่างไร
Banker มีแต้ม 8-9 แต้ม จะไม่ทำการจั่วไพ่ใดใดทั้งสิ้น