บาคาร่าออนไลน์
บาคาร่า หรือ เกมส์ไพ่บาคาร่าเป็นเกมส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมักจะเล่นกันในคาสิโน โดยเกมส์ไพ่ชนิดนี้ จะเป็นเกมส์ไพ่ที่เปรียบเทียบแต้มกันระหว่างสองฝั่ง ก็คือ ผู้เล่น และ ดีลเลอร์ ในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า ‘Player’ หรือ ‘Banker’ ในการเล่นเกมส์บาค่าร่าแต่ละตานั้น จะมีผลลัพธ์ที่มีความเป็นไปได้อยู่สามทาง ได้แก่ ชนะ, แพ้ และเสมอ หากฝ่ายใดก็ตามมีแต้มเยอะกว่า แต่คะแนนของแต้มต้องไม่เกิน 9 คะแนน จะถือว่าเป็นผู้ชนะ สำหรับต้นกำเนิดของเกมส์บาคาร่านั้น มีการถกเถียงกันถึงแหล่งที่มาว่ามากจากที่ไหน แต่โดยรวมแล้ว อ้างกันว่าเกมส์บาคาร่าเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 บางแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือบอกว่า เกมส์บาคาร่าได้ถูกนำมาใช้ และเป็นที่รู้จักกันในฝรั่งเศส โดยต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลีอีกทีหนึ่ง โดย มีทหารบางนายที่ไปสงครามฝรั่งเศส ได้เป็นคนนำมาเผยแพร่ ทำให้เกมส์บาคาร่ากลายเป็นที่รู้จักกันในชนชั้นสูงของฝรั่งเศส และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปในวงกว้างช่วงเวลาต่อมา โดยอยู่ในราว ๆ รัชสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 8 ในประเทศอิตาลี

สอนเล่นบาคาร่าฉบับย่อ
วิธีการเอาชนะเกมส์ไพ่บาคาร่า จะเป้าหมายของเกมส์ก็คือ ผู้เล่นจะทำการเล่นอย่างไรก็ได้ โดยให้มีแต้มไพ่ในมือเท่ากับ 9 แต้ม หรือใกล้เคียงกับ 9 ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะ 9 แต้มจะเป็นไพ่ที่สูงที่สุดในการเอาชนะเกมส์ไพ่ชนิดนี้ คำว่า “ดีลเลอร์” หรือเรียกอีกอย่างว่า เจ้ามือ จะเป็นคนที่เก็บเงิน และจ่ายเงินของโต๊ะและจะทำหน้าที่ แจกไพ่ด้วยเช่นกัน โดย ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ จำนวนสองใบสำหรับ Player และ Banker เอง โดยไพ่จะถูกแจกให้กับทาง Player ก่อน และค่อยทำการสลับมาแจกให้ Dealer ภายหลัง และการแจกไพ่นั้น จะการคว่ำหน้าไพ่ ลงทั้งหมด และบางสถานการณ์ สามารถเรียกร้องให้ดีลเลอร์แจกไพ่ใบที่สามได้ โดยกรณีนี้ จะไม่คำนึงถึงจำนวนผู้เล่นที่กำลังเล่นในเกมส์ตาหนึ่ง ๆ และอย่างที่กล่าวไปแล้วนั้น ว่าโต๊ะ สามารถรองรับผู้เล่นที่ทำการเดิมพันได้สูงสุด จำนวน 14 คน ผู้เล่น เลือกทำการเดิมพันระหว่าง Player / Banker or Tie โดยทั้งนี้ แต้มที่ทำการเดิมพันจะต้องเท่ากับ 9 แต้ม หรือ ใกล้เคียงกับ 9 ให้มากที่สุด ผู้เล่นต้องทำการตัดสินใจว่าชอบฝั่งใด และทำการเดิมพันตามที่ต้องการ ไพ่ที่ มีแต้มเท่ากับ 8,9 จะเรียกว่า Natural โดยหากมี 8 แต้มจะเรียกว่า ‘Le Petit’ และหากมี 9 แต้ม จะเรียกว่า ‘Le Grande’ โดยคำที่ใช้เรียกเหล่านี้ จะใช้ต่อเมื่อไพ่ที่ถูกแจกสองใบแรกมีแต้มเป็น 8 หรือ 9 เท่านั้น นับว่า “ชนะ” และเกมส์จะจบลงทันที หากไพ่ทั้งสองฝ่าย เกิดมีค่าหรือจำนวนเท่ากับ จะมีผลเป็น “เสมอ” นับว่า จบเกมส์ เช่นกัน

จากที่ได้กล่าวมานั้น ผู้เล่นจะสามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้กฏ และกติกาของเกมส์ไพ่บาคาร่าได้ง่าย ๆ จากหัวข้อนี้ โดยเราจะอธิบายถึงวิธีการเล่นบาคาร่าสั้น ๆและรวบรัดเนื้อหาที่สุด เพราะบาคารร่ามีวิธีการเล่นไม่ซับซ้อน โดยหากผู้เล่นไม่มีความรู้มาก่อน ผู้เล่นก็จะสามารถเข้าใจได้ง่ายเช่นกัน สำหรับวิธีการและกติกาเบื้องต้น เราก็ได้อธิบายไว้แล้ว ต่อไปเรามาพูดถึงปัจจัยหลักที่มีความเกี่ยวข้องกับเกมส์ไพ่บาคาร่า ที่ผู้เล่นควรทราบกันบ้างดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง โดยปัจจะที่เราจะกล่าวถึงความเกี่ยวข้องของเกมส์บาคาร่ามีดังต่อไปนี้

1.บาคาร่า มีกฎที่ง่ายๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำการตัดสินใจ
2.เกมส์ มีจุดประสงค์การเอาชนะ ก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้มีแต้มเท่ากับ 9 หรือใกล้เคียง
ผู้เล่น สามารถเลือกได้ว่า จะวางเดิมพันฝ่าย ผู้เล่น หรือ ดีลเลอร์ ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ
บาคาร่าเป็นเกมส์ที่เล่นง่าย และ ทำให้ติด คุณจะต้องเล่นมันอยู่เสมอ

การกำหนดค่าแต้มของไพ่ในเกมส์บาคาร่า

การเล่นเกมส์ไพ่บาคาร่า หลักพื้นฐานที่สำคัญที่ผู้เล่นควรจะต้องทราบก็คือ แต้มหรือมูลค่าหน้าไพ่แต่ละใบ ว่าไพ่เหล่านั้นมีจำนวนกี่แต้ม โดยแต้มที่ถูกกำหนดและที่นำใช้ในเกมส์บาคาร่า จะมีการกำหนดค่าไพ่ตามปกติทั่วไป ดังนี้
ไพ่ 10,J,Q,K จะมีค่าเท่ากับ 0
ไพ่ที่มีตัวเลข ตั้งแต่ 2-9 จะมีค่าเท่ากับ มูลค่าตัวเลขหน้าไพ่
ไพ่เอซ (A) จะมีค่าเท่ากับ 1

อธิบายหลักการเล่นบาคาร่า

จะมีการกำหนดแต้ม หรือ ค่าของไพ่ไว้ว่า หากแต้มดังต่อไปนี้ มีแต้มต่ำกว่า หรือ มากกว่า จำนวนเท่านี้ ทางดีลเลอร์ จะทำการแจกไพ่ใบที่สาม ผู้เล่นไม่ต้องเป็นกังวลไปว่า จะสับสน เราจะทำการอธิบายทั้งหมดในส่วนตรงนี้ โดยทางดีลเลอร์ จะทำการจัดการเองทั้งหมดเพื่อผู้เล่น จะเป็นการดี หากผู้เล่น เข้าใจในหลักการตรงนี้ ว่าบางครั้ง ทำไม ผู้เล่นอาจจะได้รับการแจกไพ่ใบที่สาม โดยหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีแต้มไพ่ดังนี้
0-5 แต้ม ผู้เล่นจะได้รับการแจกไพ่อีกหนึ่งใบ
6-7 แต้ม ผู้เล่น ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น รอลุ้นเพียงอย่างเดียว ไพ่แต้มนี้ เรียกว่า “อยู่”
8-9 แต้ม (เนเชอรัล) ไพ่นี้ เป็นไพ่ที่ชนะ โดยปริยาย เนื่องจากแต้มบาคาร่า สูงสุด คือ 9 แต้มหากแต่สองฝ่าย เกิดมีแต้มเท่ากับ เกมส์นั้น จะนับว่า “เสมอ”
หลังจากที่ฝ่าย Player ได้รับการแจกไพ่ และแต้มออกมาเป็นจำนวนดังกล่าวแล้วนั้น ทางฝ่ายดีเลอร์ หรือ Banker จะมีวิธีการปฏิบัติดังนี้
Banker มีแต้ม 1-2 แต้ม จะทำการแจกไพ่ใบที่สามทันที
Banker มีแต้ม 3 แต้ม จะทำการจั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้ม 1-7 แต้ม หรือ 9-10 และจะ ไม่เรียกไพ่ใดใด หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 8
Banker มีแต้ม 4 แต้ม จะทำการจั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 2-7 แต้ม แต่จะไม่จั่วไพ่ หากผู้เล่นมีแต้มเท่ากับ 1 หรือ ระหว่าง 8-10 แต้ม
Banker มีแต้ม 5 แต้ม จะทำการจั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 4-7 แต้ม แต่จะไม่จั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 1-3 หรือ 8-10
Banker มีแต้ม 6 แต้ม จะทำการจั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 6-7 แต้ม แต่จะไม่จั่วไพ่ หากฝ่าย Player มีแต้มเท่ากับ 1-5 หรือ 8-10
Banker มีแต้ม 7 แต้ม จะไม่ทำการจั่วไพ่ จะเรียกว่า “อยู่” ไม่ว่าแต้มผู้เล่นจะเป็นอย่างไร
Banker มีแต้ม 8-9 แต้ม จะไม่ทำการจั่วไพ่ใดใดทั้งสิ้น