ยำข่าว 24 กันยายน

แมนฯ ยูไนเต็ด โดน วูลฟ์แฮมป์ตัน จี้ตีเสมอ 1-1
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ดวลกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน โดยตอนเริ่มเกมส์นาทีที่ 7 ฝ่ายทีมเยือนเกือบจะได้ประตูขึ้นนำ ราอูล ฆิมิเนซ ยิงในกรอบเขตโทษ แต่นายทวารปีศาจแดง ดาบิด เด เคอา ใช้เท้าสกัดออกไปได้ ต่อมาในช่วงนาทีที่ 18 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากนักเตะฝีเท้ากล้า ปอล ป็อกบา ส่งบอลให้ เฟร็ด ก่อนซัดขวาหน้ากรอบเขตโทษเข้าเป็นประตู ทั้งนี้ในครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 53 มูตินโญ่ ยิงซ้ายจากหน้ากรอบเขตโทษ วูล์ฟแฮมป์ตัน ตีกลับมาเสมอ 1-1 ประตู ด้านเจ้าบ้านก็พยายามโจมตี บุกอย่างหนักแต่ก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้อีก ทำให้จบเกมส์ ทางปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตันไป 1-1 ประตู แบ่งกันทีมละ 1 แต้มจากนัดนี้

ลิเวอร์พูลฟอร์มจัด ถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0 คว้าชัยชนะติดกัน 7 นัดรวด
ลิเวอร์พูลเปิดบ้านชนะทีมเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ไป 3-0 ประตู ทำให้สามารถเก็บชัยชนะได้ 7 นัดรวดติดต่อกันเมื่อรวมจากทุกรายการ พร้อมกับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของลีกส์

ขณะนี้ ลิเวอร์พูลกลายเป็นจ่าฝูง หลังจาก เปิดบ้านดวลกับ เซาธ์แฮมป์ตัน โดยเริ่มเกมส์มาแค่ 10 นาทีเท่านั้น เจ้าบ้านก็ได้ประตูขึ้นนำไป 1-0 จาก เซอร์ดาน ชาคิรี่ ที่วิ่งขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะยัดบอลเข้าไป แต่ เวสลี่ย์ ฮู้ดท์ ดันสกัดพลาดไปเข้าประตูตัวเอง จากนั้นอีก 11 นาทีต่อมา อเล็กซ์ ซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดให้ โฌแอล มาติป โหม่งเข้าไป ทำให้ หงส์แดงขึ้นนำไป 2-0 ประตู ทั้งนี้ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บก่อนที่จะหมดครึ่งแรก เซอร์ดาน ชากิรี่ ได้ยิงบอลชนคาน แล้วทาง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ วิ่งเข้ามาซ้ำ ทำให้ฝ่ายลิเวอร์พูลทิ้งแต้มห่างไปเป็น 3-0 ประตู ขณะที่ช่วงครึ่งเวลาหลัง ไม่มีฝั่งไหนสามารถทำประตูได้เพิ่ม ทำให้จบเกมส์ ด้านลิเวอร์พูล ชนะ เซาธ์แฮมป์ตันไป 3-0 ประตู คว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันรวมทุกรายการ พร้อมกับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในพรีเมียร์ลีกส์

คล็อป เผย “ซาล่าห์” ฝืดเป็นเรื่องปกติ พร้อมแย้มอาจเห็นสเตอร์ริดจ์ คู่ ฟีร์มิโน่
กุนซือหงส์แดง “เจอร์เก้น คล็อปป์” เชื่อว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ จะสามารถลงเล่นร่วมกันได้อย่างแน่นอนในซีซั่นนี้

คล็อปป์ แถลงต่อสื่อถึงความพร้อมเกมส์ที่จะลงเปิดแอนฟิลด์ รับมือ เซาธ์แฮมป์ตัน โดยออกมาปกป้องซาล่าห์ที่ถูกวิจารณ์ว่า ฟอร์มฝืดไปมาก ยิงได้เพียง 2 ประตูจาก 6 เกมส์ ซึ่งกุนซือหงส์แดงได้สวนกลับว่า สิ่งที่ซาล่าห์ทำ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมาล่ะ? 3 ประตู และ 2 ประตูจาก 6 เกมส์ในซีซั่นนี้ล่ะ นั่นทำให้เขาโดนวิจารณ์หรอ? เขาต้องการเวลา เมื่อปีที่ผ่านมาก็เหมือนกับเราทุกคนที่ต้องการเวลา เขาจะต้องใช้เวลาสำหรับในฤดูกาลนี้เช่นกัน ก่อนสุดท้ายจะระเบิดฟอร์มยิงไป 44 ประตูจาก 52 เกมส์ ในขณะเดียวกัน กุนซือชาวเยอรมนียังพูดถึงโอกาสการลงสนาม ของสเตอร์ริดจ์ ว่าสร้างผลงานได้น่าประทับใจในเกมส์แชมป์เปี้ยนลีกส์ ที่พบกับ เปแอสเช และทำปะรตูได้อีกด้วย ก่อนที่ ฟีร์มีโน่ จะถูกเปลี่ยนตัวลงสนามและก็ทำประตูชัยให้ทีมด้วยเช่นกัน โดยกุนซือ ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองนักเตะจะได้เล่นร่วมกันในแนวรุกของทีมหงส์แดง แต่คงเป็นไปได้แค่ช่วงหนึ่งช่วงใดของซีซั่นเท่านั้น เนื่องจากว่ามีเกมส์มากมายรออยู่ ที่ทั้งสองนักเตะนี้จะสามารถเล่นร่วมกันได้