เล่นแบล็คแจ็คให้รวยทำอย่างไร?
วิธีการทำเงินจากการเล่นเกมส์แบล็คแจ็คบทความนี้คือบทความที่มีคำแนะนำสำหรับผู้เล่น โดยเราจะกล่าวถึงวิธีที่ดีที่สุดในการการสร้างเงินและสร้างกำไรจากการเล่นเกมส์แบล็คแจ็คออนไลน์ ก่อนอื่นหากผู้เล่นรักที่จะเล่นในเกมส์แบล็คแจ็คอย่างแท้จริงนั้น เป้าหมายของผู้เล่นทุกคนก็คือการเอาชนะเกมส์และหวังในผลตอบแทนจากการเล่น และนั่นก็คือเงินสดที่จะได้คืนกลับมา แต่วิธีการที่แท้จริงนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยทราบถึงวิธีการที่แท้จริง โดยจุดประสงค์ที่แท้จริงของเนื้อหาส่วนนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์และสามารถนำไปใช้เพื่อให้เกิดผลได้จริง เพราะเนื้อหามุ่งเน้นให้ผู้เล่นมีความเชี่ยวชาญ และเข้าใจวิธีการเล่นอย่างแท้จริง

เล่นแบล็คแจ็คอย่างมืออาชีพทำอย่างไร
เป็นเรื่องง่ายมากที่เงินที่คุณมีอยู่จะหมดไปกับการเล่นแบล็คแจ็ค เพราะคุณไม่มีวิธีการเล่นที่ถูกต้อง หรือมีทักษะการเล่นไม่เพียงพอ แต่หากผู้เล่นได้ปฏิบัติหรือนำคำแนะนำไปใช้ เพื่อเป็นตัวช่วยในการเดิมพัน จะทำให้ผู้เล่นเล่นได้อย่างมืออาชีพ เกมส์จะเสนอเงินที่มีมูลค่าจำนวนหนึ่งให้กับผู้เล่น หากผู้เล่นนำวิธีการเล่นที่ถูกต้องไปใช้ จะทำให้ผู้เล่นได้รับผลประ่โยชน์มากกว่าเสียประโยชน์ โดยผู้เล่นควรเล่นจากการใช้ความคิดใตร่ตรองและพิจารณามากกว่าเล่นตามใจชอบ และนี่จะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าและมีประโยชน์สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ หรือบุคคลที่ยังไร้ประสบการณ์เมื่อคุณได้สัมผัสการเล่นแบล็คแจ็คครั้งแรก และนี่จะเป็นเคล็ดลับ เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับผู้เล่นทุกคน ที่สามารถนำไปใช้ร่วมกับการตัดสินใจก่อนที่ผู้เล่นตัดสินใจจะทำการเดิมพันในเกมมส์แบล็คแจ็ค

เคล็ดลับการเล่นแบล็คแจ็ค :
แบล็คแจ็ค คือเกมส์ไพ่ชนิดหนึ่งให้เลขหน้าไพ่รวมกันให้ใกล้ 21 มากที่สุด หรือให้ครบ 21 จึงเป็นผู้ชนะ หากหน้าไพ่รวมกันแล้วเกิน 21 ถือว่าแพ้ทันที

ก่อนอื่นผู้เล่นจะต้องรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ของไพ่แบล็คแจ็คที่ใช้ในเกมส์เสียก่อน โดยมีดังต่อไปนี้ :

Blackjack : แบล็คแจ็คคือการได้แต้ม 21 ทันที เมื่อได้รับการแจกไพ่จากสองใบแรก
Hit : หมายถึงการเรียกไพ่เพิ่ม เพื่อมีแต้มให้เข้าใกล้ 21 แต้มมากที่สุด
Stand : หมายถึงการพอใจในแต้มไพ่ที่ได้มา (มีชื่อเรียกอื่นๆ ว่า : Stay, Stick, Stand pat)
Double down: หมายถึงจะใช้วิธีการนี้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น ความหมายก็คือการลงเดิมพันเพิ่มขึ้น 100% ตามกฎการเล่นของแบล็กแจ็ค ผู้เล่นจะต้องวางเงินเดิมพันทับเส้นกรอบสี่เหลื่ยม โดยกรณีนี้เรียกไพ่เพิ่มได้อีกเพียงแค่ 1 ใบเท่านั้น เพื่อลุ้นว่าไพ่ใบที่สามจะเป็นอะไร
Split : หมายถึงจะใช้วิธีการนี้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น ความหมายก็คือ หากผู้เล่นได้ไพ่คู่ เช่น ได้รับไพ่เลข 5 จำนวนสองใบ เจ้ามือจะถามผู้เล่นเพื่อยืนยันว่าต้องการ Split? ไหม ถ้าตอบตกลง ผู้เล่นก็สามารถเล่นไพ่ 2 ชุดได้ในเวลาขณะนั้น ภาษาบ้านๆ ก็คือการแยกไพ่ออกเป็นสองมือนั่นเอง
Surrender : หมายถึงจะใช้วิธีการนี้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น ความหมายก็คือ ในบางเกมส์ของแบล็คแจ็ค ผู้เล่นสามารถขอยอมแพ้ได้ และผู้เล่จะได้เงินพนันกลับคืนมาแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
Insurance : หมายถึงจะใช้วิธีการนี้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น ความหมายก็คือ หากไพ่ใบแรกของเจ้ามือ คือไพ่ A เจ้ามือจะถามว่าทำ Insurance? ไหม (เรียกอีกอย่างว่าการทำประกัน) ถ้าทำ ผู้เล่นก็เพิ่มเงินเดิมพันอีกครึ่งหนึ่งของวงเงินเดิมพันที่วาง (เช่น เงินเดิมพัน 10$ เงิน Insurance คือ 5$) เพราะว่าไพ่ A ของเจ้ามือที่มีนั้น ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่เจ้ามือจะชนะ หากเจ้ามือได้แบล็คแจ็คขึ้นมา ผู้เล่นจะได้เงินส่วนที่ทำ Insurance เพิ่มกลับมา ในทางกลับกันถ้าเจ้ามือแพ้ ก็จะถูกริบเงินที่ทำ Insurance ไปนั่นเอง

เทคนิคการเล่นแบล็คแจ็ค
ผู้เล่นไม่ควรเล่น หรือวางเดิมพันมากกว่าเงินที่สามารถหาได้ วิธีการก็คือ ผู้เล่นไม่ควรจะทิ้งเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ หากผู้เล่นกำลังสูญเสียเงินเดิมพัน วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ผู้เล่นควรจัดการกับงบหรือเงินที่เตรียมไว้สำหรับการเล่น ก่อนที่จะทำการเดิมพันใดใด

จดจำวิธีการเล่นพื้นฐานของเกมส์ เมื่อผู้เล่น เริ่มทำการเล่นเกมส์ใดใดในคาสิโนออนไลน์ก็ตาม ควรมั่นใจก่อนว่า ผู้เล่นจดจำ หรือเข้าใจวิธีการเล่นพื้นฐานของเกมส์นั้น ๆ ได้แล้ว หากผู้เล่นยังไม่ชำนาญ หรือไม่เข้าใจ สามารถเปิดดูคู่มือที่แนะนำการเล่นพื้นฐาน โดยเลือก ที่หน้าวิธีการ หรือคำแนะนำสำหรับการเล่น วิธีนี้ จะทำให้ผู้เล่นเข้าถึง ข้อมูลได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

ไม่ควรทำการเดิมพันมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนเดิมพัน ในครั้งเดียว หากผู้เล่นทำการเล่นด้วยวิธีการเช่นนี้ จะนับว่าเป็นวิธีที่ไม่ระวัง และสะเพร่ามาก เพราะไม่มีผู้เล่นคนใดต้องการจะเห็นเงินที่มีหายไปอย่างง่ายดาย ในครั้งเดียว เมื่อผู้เล่นทำการเดิมพันพลาด

ผู้เล่นไม่ควรวิตกกังวล บางครั้ง ดูเหมือนว่าไพ่ที่ได้รับมา ก็ไม่ได้เข้าข้างคุณเสมอไป และมันสามารถล่อตาล่อใจคุณเพื่อทำให้คุณละทิ้งสไตล์หรือวิธีการเล่นของคุณไป

การปรับปรุงการเล่นเพื่อให้ได้โอกาสมากขึ้น
วิธีการพื้นฐานที่เราต้องการนำเสนอ ผู้เล่นสามารถอ่านและศึกษาจากคำแนะนำ ว่าเมื่อใดที่ผู้เล่นควรจะทำการวางเดิมพัน เวลาใดที่สมควรจะเรียกไพ่เพิ่ม เวลาใดที่ผู้เล่นควรจะอยู่ไพ่ หรือว่า เวลาใดที่ผู้เล่นมีโอกาสที่จะทำการวางเดิมพันเพิ่มเป็นสองเท่า ที่จะพูดต่อไปนี้ จะเป็นการกล่าวถึง สองเคล็ดลับที่เมื่อผู้เล่นต้องการเล่นเกมส์ และต้องการเอาชนะเดิมพัน

เคล็ดลับแรก คือ การแยกไพ่ไม่ใช่สิ่งจำเป็น

หากผู้เล่นที่ทำการแยกไพ่สองใบ เมื่อตนเองได้ไพ่คู่ที่เหมือนกัน เพราะคิดว่า มีโอกาสมากกว่าในการที่จะเอาชนะดีลเลอร์ ความคิดเช่นนี้ เป็นความคิดของผู้เล่นอ่อนประสบการณ์ ในความเป็นจริง ทางสถิติบันทึกเอาไว้ว่า การแยกไพ่นั้น ไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก สำหรับการกระทำเช่นนี้ ในกรณีที่ผู้เล่นเสียโอกาส ที่จะเอาชนะด้วยแต้ม 20 กลับกลายเป็นว่า ผู้เล่นมีโอกาสที่จะเสียเงินเดิมพันของคุณ หากผู้เล่นทำการแยกไพ่ และไพ่ที่ได้รับมาใหม่นั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ ผลที่ตามมา คือทำให้ผู้เล่นอาจจะชนะ หนึ่งมือ เสีย หนึ่งมือ เท่ากับเสมอตัว พูดง่าย ๆก็ เท่ากับว่าไม่ได้อะไรเลยนั่นเอง

เคล็ดลับที่สอง คือ ควรแยกไพ่เมื่อผู้เล่นได้ A (aces) & 8

นี่เป็นสิ่งที่แทบไม่จำเป็นต้องใช้ความคิด เมื่อผู้เล่นได้ไพ่สองใบนี้พร้อมกัน หรือ หากผู้เล่นได้ไพ่ 8 คู่กัน ผู้เล่นจะได้แต้มเพียง 16 แต้มเท่านั้น นับว่าเป็นความน่ากลัวที่จะทำให้พ่ายแพ้ได้สูงมาก และการแยกไพ่เหล่านี้ออกจากกัน เท่ากับคุณมีโอกาสที่จะวางเดิมพันได้สองอย่าง หากไพ่ที่ได้รับการแจกเพิ่มมานั้น ไม่ว่าจะได้รับฝั่งใดก็ตาม ก็เท่ากับว่าคุณมีโอกาสที่จะชนะแล้วหนึ่งมือ นอกจากนั้น ไพ่คู่เอซ อาจจะทำให้ผู้เล่นมีความเสี่ยงนิดหน่อย หากไพ่ใหม่ที่แจกมานั้น มีแต้มต่ำกว่า หกลงไป โดยคุณทำได้เพียงแค่ว่าหวังให้ไพ่ที่เปิดออกมานั้น เป็น เลขเจ็ด แปด เก้า หรือสิบนั่นเอง

วิธีการเล่น
จะมีผู้เล่นตั้งแต่สองคนขึ้นไป

ผู้เล่นทำการวางเดิมพันตามที่ต้องการ ลงในช่องสี่เหลี่ยมบนโต๊ะ
เจ้ามือจะทำการแจกไพ่ให้ผู้เล่นคนละหนึ่งใบก่อน แล้วจึงวนมาแจกให้ตนเอง โดยผู้เล่นจะได้รับไพ่คนละ 2 ใบ ส่วนเจ้ามือ จะได้ไพ่ใบแรกโดยการหงายไพ่ ส่วนอีกหนึ่งใบ จะคว่ำหน้าไพ่เอาไว้ สำหรับไพ่ของผู้เล่น จะถูกคว่ำหน้าไพ่เอาไว้เสมอ
หากไพ่ทั้งสองใบของผู้เล่น มีแต้มรวมกันแล้วยังมีแต้มห่างไกลจาก 21 แต้มมาก ผู้เล่นสามารถเรียกไพ่ได้อย่างไม่จำกัดจนกว่าจะใกล้เคียง 21 แต้ม แต่หากผู้เล่นได้แต้มเกินจาก 21 แต้มเมื่อไหร่ จะถูกปรับแพ้ในทันที
กฏการเล่นแบล็คแจ็ค ทางฝ่ายของเจ้ามือนั้น จะทำการเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำ ถ้าผู้เล่นได้แต้มตั้งแต่ 16 ลงมานั้น ก็จะถือว่าผู้เล่นแพ้เจ้ามือ
หากผู้เล่นท่านใด ที่พอใจแต้มบนมือที่ 16 แต้ม ก็สามารถ Stand ได้ โดยรอลุ้นให้เจ้ามือนั้นได้แต้มเกิน 21 แต้ม จากนั้น ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะทันที เพราะแต้มไพ่ของเจ้ามือเกินจาก 21 แต้ม ถือว่าแพ้