สอนเล่นแบล็คแจ็ค สูตรลัด
แบล็คแจ็คเล่นอย่างไร?
เกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค ที่หลายๆ คนต่างชื่นชอบนั้น เป็นเกมส์ที่มีกฏ กติกาการเล่นง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก โดย เกมส์ไพ่ชนิดนี้ จะมีการแข่งขันกัน ระหว่างสองฝ่าย คือฝ่ายดีลเลอร์ และ ฝ่ายผู้เล่น โดยไพ่แบล็คแจ็คที่นำมาเล่นกันในปัจจุบันนี้ มีมานานหลายทศวรรษ เกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค จะสามารถ นำไพ่มาใช้ ในเกมส์ได้มากกว่าหนึ่งสำรับ และรูปแบบ ของเกมส์ไพ่นี้ จะมีลักษณะพิเศษ ถือเป็นเสน่ห์ ของการเล่นไพ่ชนิดนี้ เลยก็ว่าได้ โดยเกมส์แบล็คแจ็คนั้น จะเล่นกันบนโต๊ะ ที่ถูกออกแบบ มาเป็นพิเศษ สำหรับเกมส์นี้โดยเฉพาะ มักจะมีจุดเชื่อมต่อ ในเกมส์ อยู่หลายจุดเช่นกัน จุดดังกล่าวที่ว่านี้ ก็คือ พื้นที่บนโต๊ะ ที่ถูกแบ่งตามลักษณะ ที่ถูกกำหนด ไว้ตามการออกแบบ โดยที่จะมีประมาณ 7 ช่อง ที่เป็นช่องหลัก ๆ เพื่อชี้แจ้ง ถึงกติกา การเล่น โดยช่องต่าง ๆ ที่ว่านี้ทั้งหมด จะถูกใช้เมื่อผู้เล่นทำการวางเดิมพันนั่นเอง โต๊ะแบล็คแจ็ค จะถูกใช้งาน ในระหว่างที่ผู้เล่น ทำการวางเดิมพัน ตามที่ผู้เล่นต้องการ
ก่อนการเริ่มเล่น ผู้เล่นจะต้องเลือกก่อนว่า ผู้เล่นต้องการที่จะวางเดิมพัน ณ ที่ใด โดยจะต้องกำหนดเงินเดิมพัน หรือ ชิพที่ใช้เดิมพัน วางลงบนตำแหน่งบนโต๊ะ จากนั้น ทางดีลเลอร์จึงจะทำการแจกไพ่ให้แก่ผู้เล่น และตัวดีลเลอร์เอง ไพ่ที่แจก แต่ละฝ่ายจะได้รับ จำนวนสองใบ โดยที่ไพ่ที่แจกนั้น จะถูกหมายหน้าทั้งหมด ยกเว้นไพ่ของทางดีลเลอร์ ที่ จะแจกไพ่ ใบแรกหงายหน้าไพ่ แต่ไพ่ใบที่สอง จะถูกคว่ำหน้าไพ่ลงเอาไว้ จากนั้น จะเป็นขั้นตอนการเล่น โดยผู้เล่นจำเป็น จะต้องคิดแล้วว่า ผู้เล่นจะตัดสินใจต่อไพ่ที่มี อย่างไร หากผู้เล่น ไม่พอใจกับจำนวนแต้ม ที่ได้รับ จากไพ่ทั้งสองใบนั้น ผู้เล่น สามารถเรียกไพ่ได้ จนกว่าผู้เล่นจะพอใจ โดยเทคนิค และความรู้เพิ่มเติม จากส่วนนี้ เราจะกล่าวในภายหลัง ในกรณีที่ผู้เล่น ต้อง การเรียกไพ่เพิ่ม เนื่องจากแต้มที่มีต่ำไป ผู้เล่น จะสามารถ เรียกไพ่ได้จนกว่า แต้มของผู้เล่นจะเข้าใกล้แต้ม 21 โดยแต้มไพ่ จำนวน 21 ที่ว่านี้ คือ แต้มไพ่ที่เป็นแต้มสูงสุด สำหรับเกมส์แบล็คแจ็ค กติกา การเอาชนะของเกมส์แบล็คแจ็คนี้ คือ ฝ่ายใดก็ตามที่มีแต้มมากกว่ากัน หรือ เท่ากับ 21 แต้มนั้น ถือว่า ฝ่ายนั้นชนะ และในทางกลับกัน หากจำนวนแต้ม ของฝ่ายใดก็ตาม เกิน 21 แต้มขึ้นไป จะนับว่าแพ้ทันที สำหรับกฏการเล่นของทางดีลเลอร์ หากมีแต้มจากไพ่ที่มีอยู่นั้นต่ำเกินไป ทางดีลเลอร์จะทำการเรียกไพ่ ให้ได้อย่างน้อย 17 แต้ม ถึงจะนับว่าอยู่ คือ สามารถสู้กับทางผู้เล่นได้แบบไม่เสียเปรียบ โดยกฏนี้ มักจะไม่พยายาม เรียกไพ่ เกินกว่า 17 แต้ม เพราะอาจจะทำให้ทางดีลเลอร์ ได้แต้มเกินกว่า 21 แต้ม ซึ่งจะนับว่าแพ้ในทันที นั่นเอง
การนับแต้มของไพ่แบล็คแจ็คจะเป็นดังนี้
ไพ่ ACE หรือ A จะมีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11 แต้มก็ได้
ไพ่ที่มีตัวเลขตั้งแต่ 2-9 จะมีค่าเท่ากับ มูลค่าตัวเลขหน้าไพ่
ไพ่ทั้งหมดที่เป็นรูปภาพ หรือ ตัวอักษร J,Q,K,10 จะมีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
ไพ่นอกเหนือจากนี้ จะไม่เกี่ยวข้อง
คำศัพท์ที่มักจะพบในเกมส์แบล็คแจ็ค (จำเป็นต้องรู้)
ก่อนการเริ่มต้นทั้งหมด ผู้เล่น จะต้องทำการวางเดิมพัน ในตำแหน่งที่ผู้เล่นต้องการจะแทง หากผู้เล่นสามารถเลือกได้แล้วนั้น ทางโต๊ะจะมีการกำหนดการเดิมพันสูงสุด ต่ำสุด ที่ผู้เล่นจำเป็นต้องปฏิบัติตาม ดังนั้น การเดิมพันต่างๆ ที่ผู้เล่นวางเดิมพันไป จะต้องอยู่ภายใต้จำนวนที่ถูกกำหนด จากนั้น เมื่อทำการวางเดิมพันแล้ว ผู้เล่นจะได้รับไพ่สองใบ รวมถึงทางดีลเลอร์ด้วย โดยจะสังเกตุเห็นไพ่ของดีลเลอร์ จะถูกหงายหนึ่งใบ และคว่ำหนึ่งใบ โดยผู้เล่นต้องรู้แล้วว่า ไพ่เอซ มีค่าเท่ากับ หนึ่ง หรือ สิบเอ็ด ก็ได้ หากผู้เล่นพบไพ่ใบนี้ แสดงว่าผู้เล่นมีโอกาสเข้าใกล้แบล็คแจ็คสูงทีเดียว
คำศัพท์ในการเล่นไพ่แบล็คแจ็คที่ต้องเข้าใจมีดังนี้
Hitting การเรียกไพ่
Standing การอยู่ไพ่
Insurance การประกันเมื่อทางเจ้าได้ไพ่เอซ
Splitting การแยกไพ่
Doubling การวางเดิมพันเพิ่มเมื่อมีโอกาสชนะสูง